6 อันดับอาหารเช้าจานโปรด เมนูไหนเปี่ยมประโยชน์มากที ่สุด
เป็นที่ทราบกันดีว่า มื้อเช้า ถือเป็นอาหารมื้อสำคัญที่สุ ด จะสดใสร่าเริง สมองแล่นทั้งวันหรือไม่ ก็อยู่ที่มื้อเช้านี่แหละ เมื่ออาหารเช้าสำคัญขนาดนี้ มาสำรวจกันหน่อยดีมั้ย ว่าอาหารจานโปรดที่คุณๆ ทานกันทุกเช้านั้น เมนูใดเปี่ยมประโยชน์ เมนูไหนสมควรเลี่ยง !
...
...
เรารวบรวมอาหารเช้าที่คุณคุ
“การทานอาหารเช้าที่ดี คือ ให้กินอย่างราชา แต่จะต้องมีหลักนิดนึงคือ ถ้าเรากินอย่างราชาแต่หนักแ
กฎข้อที่สองคือ อาหารเช้ามื้อนั้นๆ ไม่ควรจะรสจัดเกินไป เพราะในตอนเช้ายังไม่มีน้ำย
หลังบอกถึงหลักการทานอาหารเ
อันดับ 1 ต้มเลือดหมู
เมนูอันดับหนึ่ง คุณหมอผู้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Anti-Aging ยกนิ้วให้เป็นเมนูเพื่อสุขภ าพสุดๆ ทว่าจะให้ทานแล้วดีต่อร่างก ายอย่างแท้จริง...ก็ต้องมีเ ทคนิคในการทาน
“ต้มเลือดหมูเป็นอาหารที่เร ียกได้ว่าเป็น perfect combination หรือเป็นคู่ที่สมกันมากเลย เพราะในเลือดหมูมีธาตุเหล็ก และในผัก เช่น ใบตำลึง จะมีวิตามินซีเยอะ ธาตุเหล็กต้องมีวิตามินซี มันถึงจะดูดซึมได้ดี เช่นเดียวกับที่วิตามินซี ก็ต้องมีธาตุเหล็กมันถึงจะด ูดซึมเข้าไปในร่างกายได้ดี ฉะนั้นมันเป็นคู่ที่เพอร์เฟ คเลย
แต่สิ่งที่ควรระวังคือ หากใครเป็นเก๊าท์ ต้องระวังหน่อย เพราะน้ำซุปต้มเลือดหมูทำจา กน้ำต้มกระดูก ซึ่งมีกรดยูริค (Uric Acid) เยอะ ส่วนเครื่องในก็มีกรดยูริคส ูงเหมือนกัน อันนี้อาจต้องระวังสักนิด นอกจากนี้คนอีกกลุ่มที่ต้อง ระวัง คือ คนที่เป็นธาลัสซีเมีย (Thalassemia) เพราะคนที่เป็นธาลัสซีเมีย ไม่ควรกินธาตุเหล็กเยอะ แต่ต้มเลือดหมู มีทั้งเลือดหมู, เครื่องใน, ใบตำลึง เหล่านี้มีธาตุเหล็กทั้งนั้ นเลย แต่ถ้าในคนทั่วไปที่ไม่ได้เ ป็นธาลัสซีเมีย ต้มเลือดหมูคือต้มที่ดี เป็นต้มที่เปี่ยม คอลลาเจน (Collagen) เพราะในเลือดหมูมีคอลลาเจน ในน้ำต้มกระดูกก็มีคอลลาเจน ทั้งยังมีผักเขียวที่มีวิตา มินซี ก็ยิ่งทำให้คอลลาเจน ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีอ ีกด้วย
ดังนั้นต้มเลือดหมู ถือว่าเป็นซุปสวยได้เลย เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีช นิดหนึ่ง ดีกว่าปาท่องโก๋จิ้มนม นะ แต่มันจะกลายเป็นอาหารที่ไม ่สุขภาพไปได้ เช่น หากเราใส่กระเทียมเจียวเยอะ ๆ ใส่หมูติดมัน หรือบางเจ้าใส่หมูสามชั้น หรือหมูกรอบเข้าไป แล้วปรุงให้รสจัดเกินไป หรือหวานไป”
“ต้มเลือดหมูเป็นอาหารที่เร
แต่สิ่งที่ควรระวังคือ หากใครเป็นเก๊าท์ ต้องระวังหน่อย เพราะน้ำซุปต้มเลือดหมูทำจา
ดังนั้นต้มเลือดหมู ถือว่าเป็นซุปสวยได้เลย เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีช
อันดับ 2 ขนมปัง + ไข่ดาว
สำหรับอับดับสองเป็นเมนูอาห ารเช้าทำง่าย...ทานง่าย อย่าง ขนมปัง-ไข่ดาว ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์ อายุรวัฒน์นานาชาติ ยกให้เป็นอาหารเช้าเปี่ยมปร ะโยชน์ที่เหมาะนักสำหรับหนุ ่มสาววัยทำงาน และน้องๆ วัยเรียน จะต้องเป็นขนมปังโฮลวีท (whole wheat) และไข่ดาวน้ำ หรือไข่ต้ม (ที่ไร้น้ำมัน) นะคะ
“ในช่วงเช้า สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศ (office) ที่ต้องไปทำงาน หรือเด็กในวัยเรียน การเพิ่มอาหารจำพวกโปรตีนเข ้าไปก็ถือว่าเหมาะมาก เพราะโปรตีนจะกระตุ้นให้รู้ สึกกระฉับกระเฉง ดังนั้นการทานอาหารที่มีโปร ตีนอย่าง ไข่ ก็เป็นอาหารเช้าที่ดีมาก ราคาไม่แพง และมีโปรตีนที่ช่วยกระตุ้นส มองด้วย สำหรับไข่ทอดอาจจะมีปัญหาเร ื่องของน้ำมัน ดังนั้นหากทานเป็นไข่ต้มได้ ก็ยิ่งดี โดยอาจทานไข่ต้ม, ไข่ลวก, ไข่ดาวน้ำ โรยซีอิ้วขาว โรยพริกไทยก็ยิ่งดี เพราะพริกไทยช่วยกระตุ้นการ เผาผลาญ และลดไขมันได้ด้วย
หรือไข่ต้มอย่างเดียวอาจไม่ อิ่ม การทานคู่กับขนมปังโฮลวีท ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะขนมปังโฮลวีท เป็นแป้งที่มีคุณภาพ คือ แป้งมีกาก มีธัญพืชทั้งหลาย โดยอาจนำขนมปังขนมปังโฮลวีท มาทำเป็น แซนวิช (sandwich) ไข่ เพิ่มผักอีกสักหน่อย ก็ยิ่งทำให้ร่างกายดูดซึมได ้ดีขึ้น ทานกับนมอีกนิดเพอร์เฟค (perfect) เลย เพราะนมก็มีโปรตีน และกรดอะมิโน (Amino acid) ที่ช่วยกระตุ้นสมอง ถ้าผู้ใหญ่บางท่านแพ้นมวัว ทานแล้วท้องเสีย ก็สามารถทานโยเกิร์ต (Yoghurt) แทนได้ เพราะโยเกิร์ตคือ นมที่ย่อยแล้ว และไม่ทำให้ห้องเสีย ถือว่าเป็นอาหารชูกำลัง แทนที่เราจะกระตุ้นด้วยกาแฟ เรากระตุ้นด้วยอาหารชูกำลัง อย่าง นม หรือโยเกิร์ตดีกว่า”
“ในช่วงเช้า สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศ (office) ที่ต้องไปทำงาน หรือเด็กในวัยเรียน การเพิ่มอาหารจำพวกโปรตีนเข
หรือไข่ต้มอย่างเดียวอาจไม่
อันดับ 3 ขนมครก + กาแฟ
“ขนมครกนั้น จะมีปัญหาตรงที่มันมีแป้ง ถ้าเจ้าไหนใส่แป้งเยอะ ก็ไม่ต่างจากปาท่องโก๋เท่าไ หร่ ดีกว่านิดหน่อยตรงที่มันใช้ การปิ้ง เป็นการทำให้สุกด้วยความร้อ นแทนการทอด แต่ข้อดีของมันคือ มีกะทิ ซึ่งกะทิเป็นไขมันดี เป็นกลุ่มของไขมัน มีเดียม-เชน ไตรกลีเซอไรด์ (Medium-chain triglycerides) เป็นไขมันที่ร่างกายขับออกไ ด้ดี ก็เลยไม่ค่อยถูกเก็บสะสมในร ่างกาย ซึ่งเรามักเข้าใจว่ากะทิก่อ ให้เกิดอันตราย แต่จริงๆ แล้ว กะทิถือเป็นของดีเลย อันนี้เป็นอีกหน้าฉากหนึ่งแ ละในมะพร้าวก็ยังมีวิตามินอ ี ที่ช่วยบำรุงผิวด้วย และส่วนใหญ่แล้ว หน้าของขนมครก ก็จะเป็นหน้าเพื่อสุขภาพ คือโรยด้วยเผือก, ต้นหอม, ข้าวโพด, ก็จะมีวิตามินเอ ซึ่งวิตามินเอ ต้องอาศัยไขมันจากกะทิ ในการดูดซึมดังนั้นก็เข้ากั นพอดี
ยิ่งทานขนมครกกับชา หรือกาแฟ ก็ถือว่าเหมาะสม เพราะในกาแฟจะมีคาเฟอีน (Caffeine) เยอะ ซึ่งถ้าเราได้ อาหารอย่างขนมครกเข้าไปรองท ้องก็จะดี เพราะร่างกายจะได้ไม่ต้องดู ดซึมคาเฟอีนเข้าไปแบบเต็มเม ็ดเต็มหน่วย ซึ่งมันอาจจะมากเกินไปสำหรั บร่างกาย ดังนั้นขนมครกก็ไม่ถึงกับเป ็นอาหารเช้าที่เลวร้ายนัก แต่ก็ต้องระวังไว้นิด เพราะบางเจ้าอาจมีการใส่น้ำ ตาลเยอะ รสหวานเกินไป อันนี้ก็ต้องระวังไว้หน่อย ไม่อย่างนั้นก็จะได้รับน้ำต าลมากเกินไปเหมือนกัน”
ยิ่งทานขนมครกกับชา หรือกาแฟ ก็ถือว่าเหมาะสม เพราะในกาแฟจะมีคาเฟอีน (Caffeine) เยอะ ซึ่งถ้าเราได้ อาหารอย่างขนมครกเข้าไปรองท
อันดับ 4 โจ๊กหมู
“ตัวโจ๊กหมู จะมีปลายข้าว รำข้าว ถ้าเยอะไปก็ทำให้หิวเร็วได้ เช่นกัน เพราะมันคือ แป้งที่ทำให้เราหิวเร็วได้ ส่วนสิ่งที่ควรจะทานคู่กับโ จ๊กหมูคือ ขิง และต้นหอม เพราะขิงจะช่วยระบบเผาผลาญใ นร่างกาย และทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยน ต้นหอม ช่วยในเรื่องลดไขมัน และควบคุมน้ำตาล
ส่วนประโยชน์นั้น หากเราเลือกโจ๊กที่ทำจากปลา ยข้าวแท้ๆ แล้วผสมจมูกข้าวลงไปด้วย มันจะทำให้เราได้วิตามินอี (Vitamin E) และ แกมมา ออริซานอล (Gamma-Orizanal) ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท ์ ที่มีในข้าว หรือรำข้าว และถ้ายิ่งได้โจ๊กที่ทำจากข ้าวกล้องงอกจะยิ่งดีมาก เพราะมันจะมี กาบา (Gaba) ที่ทำให้สมองร่าเริง ดังนั้นถ้าเลือกได้ก็ควรเลื อกซื้อโจ๊กที่ใช้ข้าวที่มีป ระโยชน์เหล่านี้ แต่ถ้าหาซื้อลำบาก หาได้เป็นโจ๊กข้าวขาวธรรมดา ก็ไม่ต้องซีเรียส ลองพยายามลดความเสี่ยงจากกา รได้แป้ง กับน้ำตาลเยอะ โดยเน้นทานผักเยอะๆ และไม่ต้องปรุงรสให้หวานขึ้ น หรือเค็มขึ้น
ข้อควรระวังคือ อย่ากินโจ๊ก คู่กับปาท่องโก๋ เพราะนั่นคือการนำแป้งมาจิ้ มแป้ง และหากโจ๊กนั้นใส่หมูสับแล้ ว ก็ไม่ต้องใส่เครื่องในหมูเข ้าไปอีก เพราะเครื่องในเป็นแหล่งของ กรดยูริค ที่ทำให้เกิดเก๊าท์ และในตัวโจ๊กก็ทำจากน้ำต้มก ระดูก ซึ่งมีกรดยูริคมากอยู่แล้ว หากเราใส่เครื่องในเข้าไปอี กมันก็จะได้กรดยูริคมากเกิน ไป แถมยังได้คอเลสเตอรอล (Cholesterol) มากเกินไปด้วย เพราะหมูสับก็มีคอเลสเตอรอล อยู่แล้ว หากใส่เครื่องในอีกก็อาจจะท ำให้เราได้คอเลสเตอรอลในมื้ อนั้นมากเกินไป ”
ส่วนประโยชน์นั้น หากเราเลือกโจ๊กที่ทำจากปลา
ข้อควรระวังคือ อย่ากินโจ๊ก คู่กับปาท่องโก๋ เพราะนั่นคือการนำแป้งมาจิ้
อันดับ 5 ข้าวเหนียว+ หมูปิ้ง
เมนูอับดับห้านี้ คุณหมอเตือนมานิดว่า แม้จะอร่อย ทานง่าย แถมพกพาสะดวก ทว่าก็ต้องระมัดระวังเลือกร ้านที่ไว้ใจได้ และเลี่ยงทานส่วนที่ “มัน”
“ในเรื่องของพลังงานที่ได้จ ากการเผาผลาญอาหาร เราอาจได้รับแคลอรี่ (Calorie) เยอะอยู่ แต่ถ้าเทียบกับโจ๊กแล้ว ข้าวเหนียวหมูปิ้งก็เป็นตัว ที่สลับกันทานกับโจ๊กได้ เพราะอย่างน้อยในข้าวเหนียว ก็จะมีกลูเตน (Gluten) หรือไฟเบอร์เยอะกว่าข้าวขัด จะดีขึ้นมาระดับหนึ่ง และถ้ายิ่งได้ทานหมูปิ้งกับ ข้าวเหนียวดำ มันก็จะมี โอพีซี (OPC) สารสีม่วงซึ่งเป็นสารต้านอน ุมูลอิสระ ที่อยู่ในข้าวเหนียวดำด้วย
ส่วนหมูปิ้งมีเทคนิคการทานค ือ ให้เลือกหมูปิ้งในส่วนที่มี มันค่อนข้างน้อย เพราะเมื่อไหร่ไขมัน ไปสัมผัสกับความร้อน มันจะเพิ่มอัตราเสี่ยงของกา รเกิดสารก่อมะเร็งขึ้น ดังนั้นให้เลือกมันน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นมันที่แทรกอยู่ ในเนื้อหมู หรือมันที่ติดอยู่โคนไม้เหล ่านี้ก็ต้องเลี่ยง นอกจากนี้เรื่องถ่านที่ปิ้ง หมู ก็ต้องระวังเรื่องของสารปนเ ปื้อนที่มาจากถ่านที่ไม่ได้ คุณภาพด้วย เพราะพวกนี้อาจจะมียาฆ่าแมล งที่ติดมากับไม้ที่นำมาทำเป ็นถ่าน หรือหากเขาใช้ไม้เฟอร์นิเจอ ร์ (Furniture) มาทำเป็นถ่านก็ยิ่งต้องระวั ง เพราะไม้พวกนี้เขามีการพ่นป ลวก พ่นสารเคมีเอาไว้ อาจจะทำให้เราได้รับสารเคมี ได้”
“ในเรื่องของพลังงานที่ได้จ
ส่วนหมูปิ้งมีเทคนิคการทานค
อันดับ 6 น้ำเต้าหู้ + ปาท่องโก๋
สำหรับเมนูสุดท้ายอย่าง น้ำเต้าหู้ และปาท่องโก๋นี้ คุณหมอหนุ่มระบุว่า ปาท่องโก๋นั้น ถือเป็นอาหารที่สุ่มเสี่ยงจ ะทำให้คุณอ้วนได้ง่าย เพราะทานแล้วหิวเร็ว ส่วนน้ำเต้าหู้นั้น ถือเป็น “อาหารล้างบาป” ให้กับปาท่องโก๋ที่คุณทานเข ้าไป
“ปาท่องโก๋เนี่ยะ ตัวทำให้อ้วนเลย ถ้าคนเราทานปาท่องโก๋ วันละ 1 คู่ ทุกวัน ภายในเวลา 1 ปี น้ำหนักจะขึ้นเป็นกิโลกรัมเ ลย เพราะปาท่องโก๋เป็นอาหารที่ มีแป้ง แต่น้ำเต้าหู้ เป็นตัวล้างบาปที่ดี นี่คือภูมิปัญญาของคนไทย เพราะน้ำเต้าหู้ มันมีสารอาหารที่ช่วยเรื่อง สุขภาพ ทั้งโปรตีน (Protein), แอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant), เปปไทด์ (Peptide) หรือถ้ายิ่งเป็นน้ำเต้าหู้ใ ส่ธัญพืช ก็จะมีไฟเบอร์ (Fiber) ที่ช่วยไล่ไขมันในปาท่องโก๋ ได้
อีกสิ่งที่ต้องระวังจากตัวป าท่องโก๋คือ มันอาจจะมีสารตัวหนึ่งที่ก่ อมะเร็งได้ นั่นคือกลุ่มของอะคริลาไมด์ (Acrylamide) ตัวนี้จะเกิดในพวกของทอด อาหารที่ต้องทอดด้วยน้ำมันช ุ่มๆ และอาหารทอดซ้ำ ดังนั้นถ้าเราจะทานปาท่องโก ๋ ก็ต้องพยายามเว้นวันบ้าง อย่าทานทุกวัน หรือถ้าจะทานปาท่องโก๋เมื่อ ไหร่ ควรจะทานน้ำเต้าหู้ที่มีธัญ พืชเยอะๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำเต้าหู้ใส่ถั่วแดง, เม็ดแมงลัก, ข้าวบาร์เล่ย์ (Barley) ใส่ธัญพืชเหล่านี้เข้าไปสัก หน่อย มันจะได้ช่วยไม่ให้แป้งในปา ท่องโก๋ ดูดซึมเร็วเกินไป จนทำให้หิวง่าย
ส่วนผู้ที่นิยมทานปาท่องโก๋ จิ้มนมข้น อันนั้นเรียกว่า คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) จิ้มคาร์โบไฮเดรต หรืออ้วนจิ้มอ้วนเลย เพราะนมข้นหวานทำจากหางนม แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล, น้ำเชื่อม เพราะฉะนั้นถ้าทานปาท่องโก๋ กับนมข้น ข้อเสียคือ ทำให้เราติดหวาน หากมื้อเช้ามื้อนั้นเราทานป าท่องโก๋ จิ้มนมข้น มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกมีคว ามสุข เพราะได้น้ำตาล แต่มันจะทำให้หิวเร็ว” คุณหมอกฤษดา อธิบายปิดท้ายเมนูสุดท้ายแบ บครบถ้วนกระบวนความ
เรื่องราวของอาหารการกินกับ สุขภาพยังไม่หมด สัปดาห์หน้ามาตามกันต่อ กับเมนูอาหารยอดฮิต ที่คุณๆ ชื่นชอบอย่าง ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, กระเพราะไก่ไข่ดาว และหมูกระทะ จะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แ ค่ไหน มีวิธีกินอย่างไรให้ได้คุณค ่าสูงสุด ต้องติดตามค่ะ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ
“ปาท่องโก๋เนี่ยะ ตัวทำให้อ้วนเลย ถ้าคนเราทานปาท่องโก๋ วันละ 1 คู่ ทุกวัน ภายในเวลา 1 ปี น้ำหนักจะขึ้นเป็นกิโลกรัมเ
อีกสิ่งที่ต้องระวังจากตัวป
ส่วนผู้ที่นิยมทานปาท่องโก๋
เรื่องราวของอาหารการกินกับ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ